
ประวัติความเป็นมาของไทยพวนบ้านผือ
ชาวพวนบ้านผืออพยพมาตั้งถิ่นด้านบ้านผือ 2 กลุ่มใหญ่ด้วยกันครือ
กลุ่มที่ 1 เป็นกลุ่มใหญ่ มาจากบ้านหมี่ จังหวัดลพบุรี
กลุ่มที่ 2 มาจากประเทศลาว (เมืองเวียงจันทร์)ชาวพวนที่อาศัยอยู่ที่อำเภอบ้านผือ ได้ย้ายถิ่นฐานมาจากอำเภอบ้านหมี่ จังหวัดลพบุรี และอีกส่วนหนึ่งมาจากเมืองเชียงขวางลองแจ้ง (ประเทศลาว)ถูกกว่าก้อนมากับกองทัพไทยในสมัยรัชกาลที่3ได้อพยพย้ายถิ่นฐานมาอยู่ทางภาคกลางของประเทศไทยและถูกกวาดต้อนไปอยู่ที่ประเทศลาวอพยพกลับมาที่ประเทศไทยอีกครั้งหนึ่ง โดยมุ่งมาทางลุ่มแม่น้ำของ(โขง)โดยมีคุณจางวาง หมื่นศรีครุฑราช แม่ตู้พวง นางเสม่นบัว นางตุ้ม พ่อตู้แท่ง ชาวบ้าน ทหาร เด็ก ช้าง ม้า วัว ควายเป็นต้น ต่อมามีขุนหมื่นศรีรัตนตรัยเวชพร้อมด้วยทหารชาวบ้านอีกส่วนหนึ่งได้อพยพมาเรื่อยๆโดยมีพวกฮ่อไล่ฆ่าฟันต้องคอยหลบหนีการปล้นฆ่าของพวกฮ่อจนมาพบกับกลุ่มของขุนจางวางศึกอาศัยอยู่ที่ป่าผือ มีหนองน้ำขนาดใหญ่เต็มไปด้วยต้นผือ ยินดีอุดมสมบูรณ์จึงพากันตั้งบ้านเรือนถิ่นฐานและเรียกชื่อหมู่บ้านว่าบ้านผือขุนจางวางเป็นผู้ไปส่งส่วยให้กับพวกฮ่อที่จังหวัดหนองคายซึ่งท่านนำบุตรชายไปด้วยคือนายโทม ผิวผ่องในขณะนั้นนายโทม ผิวพองมีอายุ 16 ปี อยู่ต่อมามีพวกฮ่อมาไล่ฆ่าปล้นคนไทยท่านขุนทั้งหลายและทหารที่ติดตามมาได้ตั้งค่าอยู่รอบนอกหมู่บ้านทางทิศตะวันตก เรียกว่า ดอนค้าย (ค่าย) ได้สู้รบกับพวกฮ่ออย่างกล้าหาญและมีกองทัพจากเมืองสยามได้มาขับไล่พวกฮ่อออกจากดินแดนไทยปัจจุบันดอนคล้ายเป็นทุ่งนาของคุณตาเหลือ สุวรรณแสง อยู่ทางทิศตะวันตกเฉียงใต้ของอำเภอบ้านผือบริเวรโรงพยาบาลบ้านผือและโรงเรียนบริบาลผู้มีเขตในปัจจุบันเป็นบริเวณพักม้าและช้างของเจ้านายและทหารสยามชาวบ้านเรียกว่า “สนามม้า”

หนึ่งในผู้นำในการตั้งถิ่นฐานบ้านผือ คือ ขุนจางวาง มีลูกชายคือ นายโทม ผิวผ่อง นายโทม ผิวผ่อง มีลูก 6 คนคือ
- นางแพ วิสะเพ็ญ (จังหวัดอุบลราชธานี)
- นางแบ สิงห์วงศ์ อำเภอบ้านผือ มีบุตร 4 คนคือ
2.1 นางหนูถิ่น รักษาสกุล (กรุงเทพฯ)
2.2 นางโควิน ศรีสว่าง (อำเภอบ้านผือ จังหวัดอุดรธานี)
2.3 นายหนูศิลป์ สิงห์วงษ์ (อำเภอบ้านผือ จังหวัดอุดรธานี)
2.4 นางดาวัลย์ พร้าวหอม (ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านจันทารามหมู่ 14 อำเภอบ้านผือ)
- นายพันธ์ ผิวผ่อง (จังหวัดอุดรธานี)
- นางบุปผา สังข์?อง (จังหวัดอุดรธานี)
- นายคัมภีร์ ผิวผ่อง มีบุตร 9 คน คือ
5.1 นายนิยม ผิวผ่อง (อำเภอบ้านผือ จังหวัดอุดรธานี)
5.2 นายอุดม ผิวผ่อง (อำเภอบ้านผือ จังหวัดอุดรธานี)
5.3 นายนิคม ผิวผ่อง ผอ.โรงเรียนบ้านสร้างแป้น อำเภอกุดจับ จังหวัดอุดรธานี(ข้าราชการบำนาญ)
5.4 นางสาวสมปอง ผิวผ่อง ศึกษานิเทศก์ ชำนาญการพิเศษ สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา ประถมศึกษาอุดรธานี เขต 4 อำเภอบ้านผือ จังหวัดอุดรธานี (ช้าราชการบำนาญ)
5.5 นางระยอง พินิจ (กรุงเทพฯ)
5.6 นายไกรทอง ผิวผ่อง (อำเภอบ้านผือ จังหวัดอุดรธานี)
5.7 นายทองเทศ ผิวผ่อง (ผู้ช่วยผู้จัดการธนาคารกรุงไทย จำกัด สาขาบ้านผือ จังหวัดอุดรธานี
5.8 นายรุ่งโรจน์ ผิวผ่อง (บวชเป็นพระอยู่ที่วัดป่านาคำน้อย อำเภอนายูง จังหวัดอุดรธานี
5.9 นายปราโมทย์ ผิวผ่อง ทำงานที่สโมสรลูกเสือ จังหวัดอุดรธานี
- นายเต็ง หนองหานพิทักษ์ (บ้านกลางใหญ่ อำเภอบ้านผือ จังหวัดอุดรธานี นายอำเภอบ้านผือ ขอไปเลี้ยงเป็นบุตรบุญธรรม
ท่านที่กล่าวมาเบื้องต้น มีศักดิ์เป็นเหลนของขุนจางวางและมีศักดิ์เป็นหลานของนายโทม ผิวผ่อง ที่ยังคงสืบสานว่านเครืออยู่ที่ อำเภอบ้านผือ จังหวัดอุดรธานี ตราบจนกระทั่งปัจจุบันนี้..
ชาวไทยพวนส่วนใหญ่ประกอบอาชีพเกษตรกรรม ทำนา ทำไร่ ทำสวน เป็นคนรักความสงบ มีความเป็นอยู่เรียบง่าย ขยัน ประหยัด สะอาด เวลาผู้ชายออกไปทำงานตอนกลางวัน ผู้หญิงที่อยู่บ้าน ทำงานบ้าน ทอผ้าใช้เอง โดยเฉพาะเก่งในด้านทอผ้ามัดหมี่และชอบใช้สีธรรมชาติ เน้นย้อมผ้าด้วยคราม ผ้าที่ย้อมครามคนพวนเรียกว่า “ผ้าจุบหม้อนิล” หม้อที่มีน้ำครามเรียกว่า “หม้อนิล” ผ้าที่เป็นอัตลักษณ์ของชาวไทยพวน คือ ผ้าชะม้า (ไม่ใช่ขาวม้า) หรือเรียกอีกอย่างหนึ่งว่า “ผ้าแพรอีโป้” ใช้ในชีวิตประจำวันตั้งแต่เกิดจนกระทั่งตาย